Gold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคา Gold อ่อนตัวลงเล็กน้อยหลังราคาทองคำปรับตัวเข้าหาแนวต้านของช่องแนวโน้มขาขึ้น แรงขายที่เริ่มมีออกมา ทำให้เกิดแท่งเทียนเป็นรูป Shooting Star and Harami ขาขึ้น ภาวะซื้อมากเกินและสัญญาณ Bearish Divergence เตือนให้ระวังถึงช่วงปลายตลาดขาขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำระยะสั้นปรับตัวลดลง โดยระยะกลางขึ้นไปราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาขึ้น สอดคล้องกับสัญญาณ DMI
ธนาคารกลางหลายประเทศหันมาเพิ่มการถือครองทองคำเพิ่มมากขึ้น แทนการถือครองดอลลาร์ จะส่งผลให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,346 – 1,352 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,333 – 1,327 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
กรณีที่ถือสถานะซื้อ (Long Position) ควรปิดสถานะซื้อเมื่อราคาปรับตัวเข้าแนวต้านที่ 1,346 - 1,352 เหรียญ หรือ Lock profit เมื่อราคาทองคำเปิดสูงปิดต่ำ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปิดสูงปิดต่ำ หรือเมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,350 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,333 – 1,327 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคายืนเหนือ 1,352 เหรียญ
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคา Gold อ่อนตัวลงเล็กน้อยหลังราคาทองคำปรับตัวเข้าหาแนวต้านของช่องแนวโน้มขาขึ้น แรงขายที่เริ่มมีออกมา ทำให้เกิดแท่งเทียนเป็นรูป Shooting Star and Harami ขาขึ้น ภาวะซื้อมากเกินและสัญญาณ Bearish Divergence เตือนให้ระวังถึงช่วงปลายตลาดขาขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำระยะสั้นปรับตัวลดลง โดยระยะกลางขึ้นไปราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาขึ้น สอดคล้องกับสัญญาณ DMI
ธนาคารกลางหลายประเทศหันมาเพิ่มการถือครองทองคำเพิ่มมากขึ้น แทนการถือครองดอลลาร์ จะส่งผลให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,346 – 1,352 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,333 – 1,327 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
กรณีที่ถือสถานะซื้อ (Long Position) ควรปิดสถานะซื้อเมื่อราคาปรับตัวเข้าแนวต้านที่ 1,346 - 1,352 เหรียญ หรือ Lock profit เมื่อราคาทองคำเปิดสูงปิดต่ำ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปิดสูงปิดต่ำ หรือเมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,350 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,333 – 1,327 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคายืนเหนือ 1,352 เหรียญ